วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556
อาหารกับข้าวเจ๋อเจียง
อาหารกับข้าวเจ๋อเจียง
รสชาติ มี 3 รสชาติ คือ รสชาติเมืองหางโจว รสชาติเมืองหนิงโป รสชาติ เมืองสาวซิง อาหารกับข้าวหางโจวมีชื่อดังที่สุด
ลักษณะพิเศษ รสชาติจืด ๆ ไม่ชอบใส่ซีอิ๊ว
กับข้าวที่มีชื่อดัง ไก่ขอทาน ปลาเปลี้ยวหวานทะเลสาปซีหู ผัดกุ้งหลงจิ่ง
อาหารกับข้าวหูหนาน
อาหารกับข้าวหูหนาน
รสชาติ รสชาติเผ็ดมากและเผ็ดหลายอย่าง เช่น เผ็ดเปรี้ยว เผ็ดหอม ๆ และเผ็ดเปรี้ยวหวาน
กับข้าวที่มีชื่อดัง ฮื้อฉี่ตุ๋นใส่ซีอิ๊ว
อาหารกับข้าวฮกเกี้ยน
อาหารกับข้าวฮกเกี้ยน
รสชาติ ได้วิวัฒนาการจากอาหารกับข้าวเมืองฝูโจว ฉวนโจวและเมือง เซี่ยเหมินโดยมีอาหารกับข้าวเมืองฝูโจวเป็นตัวแทน
ลักษณะพิเศษ ส่วนใหญเป็นซีฟู๊ต มีซีฟู๊ตเปรี้ยวหวานและเผ็ด เป็นต้น
กับข้าวที่มีชื่อดัง ไก่หิมะ ปลาน้ำส้ม ปลาผัดซีอิ๊ว
อาหารกับข้าวอันฮุย
อาหารกับข้าวอันฮุย
รสชาติ เป็นรสชาติในภาคใต้มณฑลอันฮุยตามสองฟากฝั่งแม่น้ำแยงซีและแม่น้ำหวายเหอ
ลักษณะพิเศษ ชอบใส่หมูแฮมและน้ำตาลกรวด เก่งในการคุ๋น
กับข้าวที่มีชื่อดัง ไก่ย่างฝูลี่จี๊ (ไก่ย่างฝูลี่จี๊ )
อาหารกับข้าวเสฉวน
อาหารกับข้าวเสฉวน
รสชาติ มีสองรสชาติด้วยกัน คือ รสชาติเฉิงตูและรสชาติฉงชิ่ง
ลักษณะพิเศษ รสชาติเข้มข้น เผ็ดมาก
กับข้าวที่มีชื่อดัง ผัดชิ้นไก่เผ็ดหวาน ผัดเส้นหมูเผ็ดหวาน ผัดกุ้งเผ็ดหวาน
อาหารกับข้าวกวางตุ้ง
อาหารกับข้าวกวางตุ้ง
รสชาติ มี 3 รสชาติ คือ รสชาติเมืองกวางโจว รสชาติเมืองแต้จิ๋ว รสชาติเมืองตงเจียง โดยมีอาหารกับข้าวเมืองกวางโจวเป็น ตัวแทน
ลักษณะพิเศษ เก่งในการทอดและการตุ๋น มีรสชาติจืด ๆ กรอบ ๆ และหวาน ๆ
กับข้าวที่มีชื่อดัง หมูหัน หมูทอดเปรี้ยวหวาน ฟักนึ่งใส่หมูหรือรวมมิตร
อาหารกับข้าวเจียงซู
อาหารกับข้าวเจียงซู
รสชาติ ได้วิวัฒนาการจากอาหารกับข้าวเมืองหยางโจว ซูโจวและนานกิง
ลักษณะพิเศษ ให้ความสำคัญต่อซุบ เก่งในการตุ๋น
กับข้าวที่มีชื่อดัง ซุบขาหมู ซุบลูกชิ้นกุ้ง
อาหารกับข้าวซานตง
อาหารกับข้าวซานตง
รสชาติ ประกอบด้วยรสชาติเมืองจี่หนานกับภาคตะวันออกมณฑลซานตง
ลักษณะพิเศษ รสชาติเข้มข้น ชอบใส่ต้นหอมและหัวกระเทียม
กับข้าวที่มีชื่อดัง ปลาหลีฮื้อเปรี้ยวหวาน หอยสังฆ์ผัดซีอิ๊ว
อาหารจีน หมายถึงอาหารที่ประกอบขึ้นตามวัฒนธรรมของชาวจีน ซึ่งรวมทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวันและ ฮ่องกง ซึ่งมีหลากหลายชนิดตามแต่ละท้องถิ่น โดยทั่วไปนิยมรับประทานอาหารจานผักและธัญพืชเป็นหลัก นอกจากในราชสำนักที่จะมีอาหารประเภทเนื้อ อาหารที่รู้จักกัน เช่น ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ หูฉลาม กะเพาะปลา วัฒนธรรมการกินเป็นการกินร่วมกันโดยอุปกรณ์การกินหลัก คือตะเกียบ
อาหารจีนจะมีอุปกรณ์การทำหลักๆเพียงสี่อย่างคือ มีด เขียง กะทะก้นกลม และตะหลิว สมัยชุนชิว-จั้นกั๋ว ได้เริ่มมีการแบ่งอาหารจีนเป็น 2 ตระกูลใหญ่ คือ อาหารเมืองเหนือ และอาหารเมืองใต้ กระทั่งต้นราชวงศ์ชิง ได้มีการแบ่งอาหารเป็น 4 ตระกูลใหญ่ ได้แก่
อาหารซันตง (หลู่ไช่)
อาหารเจียงซู (ซูไช่)
อาหารกวางตุ้ง (เย่ว์ไช่)
อาหารเสฉวน (ชวนไช่)
และปัจจุบันมี 8 ตระกูลใหญ่ โดยเพิ่ม
อาหารอันฮุย (ฮุยไช่)
อาหารฮกเกี้ยน (หมิ่นไช่)
อาหารหูหนัน (เซียงไช่)
อาหารเจ้อเจียง (เจ้อไช่)
และบางแหล่งก็แบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆตามมณฑลต่างๆ ได้อีกเช่น
อาหารเสฉวน เป็นอาหารรสจัดรวมทั้งรสเผ็ดร้อน ใช้เต้าซี่เป็นเครื่องปรุงมีเครื่องเทศมาก
อาหารกวางตุ้ง มักใช้น้ำมันหอยและผักมาก ปรุงเน้นการปรุงอาหารได้ดูสด รสชาตินุ่มนวล และมีอาหารประเภทติ่มซำที่เป็นรู้จักกันดี
อาหารฮกเกี้ยน มักใช้ข้าวหมักสีแดงสด โดยที่นำมาหมักเต้าหู้ยี้สีแดงมีน้ำซุปใสที่เก่าที่สุด
อาหารไหหลำ อาหารส่วนใหญ่มีเต้าเจี้ยวถั่วเหลืองและถั่วดำ เป็นเอกลักษณ์พิเศษ และใช้น้ำส้มปรุงรสได้
อาหารปักกิ่ง เน้นการทอดที่กรอบและนิ่มนวล แต่อาหารไขมันค่อนข้างสูง ทั้งนี้เพราะภูมิอากาศที่หนาวเย็น
อาหารซัวเถา เน้นในการตุ๋นและเคี่ยวเปื่อย รสชาติของอาหารที่เปื่อยนุ่มจนแทบละลายเมื่อถูกลิ้น
การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพของจีนมีมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์พร้อมกับการใช้ยาเพื่อรักษาโรคจากนั้นได้พัฒนาขึ้นตามลำดับในสมัยราชวงศ์ชางและโจว จนเจริญรุ่งเรืองยิ่งในสมัยราชวงศ์ถังซึ่งมีการรวบรวมตำราซึ่งเกี่ยวข้องตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว ฉิน ฮั่น และจิ้นไว้ ครั้นถึงสมัยซ่ง หยวน หมิง และชิง ก็ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีทฤษฎีว่าด้วยอาหารเพื่อสุขภาพอย่างเป็นระบบ
ต่อมาสมัยสาธารณรัฐจีน
อาหารเพื่อสุขภาพก็พัฒนาไปพร้อนกับการรักษาโรคแบบแพทย์จีนแผนโบราณและยังมีตำราที่เกี่ยวข้องออกมาเป็นจำนวนมาก เช่น เจียถิงฉืออู้เหลียวฝ่า(การใช้อาหารเพื่อบำบัดโรคในครอบครัว) จี๋ปิ้งหยิ่นจื่อหนาน(คู่มือการใช้อาหารเพื่อบำบัดโรค)โจงกว๋อฉือเหลียวต้าเฉวียน(ประมวลความรู้ว่าด้วยการใช้อาหารเพื่อบำบัดโรคของจีน
ในปัจจุบันมีอาหารเพื่อสุขภาพหลายชนิดวางจำหน่ายในท้องตลาด และมีภัตตาคารเป็นจำนวนมากที่ใช้อาหารเครื่องยาจีน
เป็นตัวโฆษณาเพื่อดึงดูดลูกค้าแสดงให้เห็นว่าอาหารบำรุงสุขภาพของจีนนั้นได้รับความนิยมจากผู้คนโดยทั่วไป อาหารจีนจะประกอบด้วยเครื่องปรุงหลักที่เป็น อาหารหลายๆ ชนิดซึ่งสาเหตุคือชาวจีนชอบค้นหาของแปลกๆ เจ้าความคิดและใช้ทุกอย่างที่บริโภคได้ในการประกอบอาหารเพื่อการอยู่รอด อาหารของคนจีนส่วนใหญ่จะประกอบขึ้นด้วยอาหารหลักที่แต่ละภาคจะสามารถปลูกหรือผลิตได้ เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว หมั่นโถว ซาลาเปา เป็นต้น จะมีการใส่ผักและปรุงรสด้วยซอส การใส่เนื้อสัตว์ จะใส่เพียงเล็กน้อย โดยหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เท่านั้น ยกเว้นในโอกาสพิเศษจะเห็นได้ว่ามีเครื่องปรุงอาหารบางชนิดที่นึกไม่ถึง เช่น กระเพาะปลา หูฉลาม ชาวจีนก็นำมาใช้ประกอบอาหาร หรือแม้แต่อาหารที่หายากหรือวิธีการเตรียมที่ยาก ชาวจีนก็ยังนำมาประกอบอาหาร เช่น รังนก รังนกเป็นอาหารที่หายาก ไม่ได้ทำจากกิ่งไม้เหมือนรังนกทั่วไป แต่ทำจากน้ำลายของนกนางแอ่น ที่พ่อและแม่นกจะช่วยกันสร้างรังเพื่อจะวางไข่ โดยจะช่วยกันสำรอกน้ำลาย ออกมาจากต่อมน้ำลาย ๒ ข้างที่อยู่ใต้ลิ้นให้ได้ปริมาณที่มากพอ เป็นเมือกเหนียวๆ ใสๆ เมื่อแห้งจะสานติดกันเป็นแผ่น สำหรับให้นกวางไข่และสามารถฝักไข่ได้ ซึ่งชาวจีนเชื่อกันว่า รังนกเป็นอาหารบำรุงกำลัง ดังนั้นซุปรังนกจึงใช้เป็นอาหารที่เสิร์ฟในงานเลี้ยงที่สำคัญ เพราะฉะนั้นงานเลี้ยงจะมีความสำคัญหรือยิ่งใหญ่เพียงใด จึงตัดสินได้ที่รายการอาหารซึ่งบ่งบอกถึงการให้เกียรติแขกมากน้อยเพียงใด
อาหารจีนจะมีกฎแน่นอนในการใส่เครื่องปรุงที่เหมาะสมในอาหารแต่ละชนิด และนำอาหารนั้นไปเป็นอาหารที่เหมาะสมกับมื้ออาหาร เพราะเครื่องปรุงบางชนิดจะกลมกลืนเฉพาะอาหารบางอย่างและวิธีการประกอบอาหารบางชนิดเท่านั้น
อาหารจีน มีรสชาติเป็นกลางไม่โดดเด่นไปทางใดทางหนึ่ง ยกเว้นอาหารจากเสฉวนจะมีรสเผ็ด ลักษณะของอาหารจีนจะแตกต่างกันไปตามการปรุงในแต่ละภูมิภาค เป็ดปักกิ่งเป็นอาหารที่ถือกำเนิดจากเมืองปักกิ่ง เป็นหนึ่งในอาหารจีนที่มีชื่อเสียงมากที่สุด หนังเป็ดถูกย่างจนกรอบ จากนั้นจะถูกเฉือนให้เป็นชิ้นบางๆ กินกับแผ่นแป้ง ต้นหอมแตงกวาหั่นชิ้นยาวและน้ำจิ้ม ข้นเหนียว ส่วนดิมซำ เป็นอาหารว่างของชาวจีนกวางตุ้ง นิยมกินกับน้ำชา
อาหารจีนจะมีอุปกรณ์การทำหลักๆเพียงสี่อย่างคือ มีด เขียง กะทะก้นกลม และตะหลิว สมัยชุนชิว-จั้นกั๋ว ได้เริ่มมีการแบ่งอาหารจีนเป็น 2 ตระกูลใหญ่ คือ อาหารเมืองเหนือ และอาหารเมืองใต้ กระทั่งต้นราชวงศ์ชิง ได้มีการแบ่งอาหารเป็น 4 ตระกูลใหญ่ ได้แก่
อาหารซันตง (หลู่ไช่)
อาหารเจียงซู (ซูไช่)
อาหารกวางตุ้ง (เย่ว์ไช่)
อาหารเสฉวน (ชวนไช่)
และปัจจุบันมี 8 ตระกูลใหญ่ โดยเพิ่ม
อาหารอันฮุย (ฮุยไช่)
อาหารฮกเกี้ยน (หมิ่นไช่)
อาหารหูหนัน (เซียงไช่)
อาหารเจ้อเจียง (เจ้อไช่)
และบางแหล่งก็แบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆตามมณฑลต่างๆ ได้อีกเช่น
อาหารเสฉวน เป็นอาหารรสจัดรวมทั้งรสเผ็ดร้อน ใช้เต้าซี่เป็นเครื่องปรุงมีเครื่องเทศมาก
อาหารกวางตุ้ง มักใช้น้ำมันหอยและผักมาก ปรุงเน้นการปรุงอาหารได้ดูสด รสชาตินุ่มนวล และมีอาหารประเภทติ่มซำที่เป็นรู้จักกันดี
อาหารฮกเกี้ยน มักใช้ข้าวหมักสีแดงสด โดยที่นำมาหมักเต้าหู้ยี้สีแดงมีน้ำซุปใสที่เก่าที่สุด
อาหารไหหลำ อาหารส่วนใหญ่มีเต้าเจี้ยวถั่วเหลืองและถั่วดำ เป็นเอกลักษณ์พิเศษ และใช้น้ำส้มปรุงรสได้
อาหารปักกิ่ง เน้นการทอดที่กรอบและนิ่มนวล แต่อาหารไขมันค่อนข้างสูง ทั้งนี้เพราะภูมิอากาศที่หนาวเย็น
อาหารซัวเถา เน้นในการตุ๋นและเคี่ยวเปื่อย รสชาติของอาหารที่เปื่อยนุ่มจนแทบละลายเมื่อถูกลิ้น
การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพของจีนมีมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์พร้อมกับการใช้ยาเพื่อรักษาโรคจากนั้นได้พัฒนาขึ้นตามลำดับในสมัยราชวงศ์ชางและโจว จนเจริญรุ่งเรืองยิ่งในสมัยราชวงศ์ถังซึ่งมีการรวบรวมตำราซึ่งเกี่ยวข้องตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว ฉิน ฮั่น และจิ้นไว้ ครั้นถึงสมัยซ่ง หยวน หมิง และชิง ก็ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีทฤษฎีว่าด้วยอาหารเพื่อสุขภาพอย่างเป็นระบบ
ต่อมาสมัยสาธารณรัฐจีน
อาหารเพื่อสุขภาพก็พัฒนาไปพร้อนกับการรักษาโรคแบบแพทย์จีนแผนโบราณและยังมีตำราที่เกี่ยวข้องออกมาเป็นจำนวนมาก เช่น เจียถิงฉืออู้เหลียวฝ่า(การใช้อาหารเพื่อบำบัดโรคในครอบครัว) จี๋ปิ้งหยิ่นจื่อหนาน(คู่มือการใช้อาหารเพื่อบำบัดโรค)โจงกว๋อฉือเหลียวต้าเฉวียน(ประมวลความรู้ว่าด้วยการใช้อาหารเพื่อบำบัดโรคของจีน
ในปัจจุบันมีอาหารเพื่อสุขภาพหลายชนิดวางจำหน่ายในท้องตลาด และมีภัตตาคารเป็นจำนวนมากที่ใช้อาหารเครื่องยาจีน
เป็นตัวโฆษณาเพื่อดึงดูดลูกค้าแสดงให้เห็นว่าอาหารบำรุงสุขภาพของจีนนั้นได้รับความนิยมจากผู้คนโดยทั่วไป อาหารจีนจะประกอบด้วยเครื่องปรุงหลักที่เป็น อาหารหลายๆ ชนิดซึ่งสาเหตุคือชาวจีนชอบค้นหาของแปลกๆ เจ้าความคิดและใช้ทุกอย่างที่บริโภคได้ในการประกอบอาหารเพื่อการอยู่รอด อาหารของคนจีนส่วนใหญ่จะประกอบขึ้นด้วยอาหารหลักที่แต่ละภาคจะสามารถปลูกหรือผลิตได้ เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว หมั่นโถว ซาลาเปา เป็นต้น จะมีการใส่ผักและปรุงรสด้วยซอส การใส่เนื้อสัตว์ จะใส่เพียงเล็กน้อย โดยหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เท่านั้น ยกเว้นในโอกาสพิเศษจะเห็นได้ว่ามีเครื่องปรุงอาหารบางชนิดที่นึกไม่ถึง เช่น กระเพาะปลา หูฉลาม ชาวจีนก็นำมาใช้ประกอบอาหาร หรือแม้แต่อาหารที่หายากหรือวิธีการเตรียมที่ยาก ชาวจีนก็ยังนำมาประกอบอาหาร เช่น รังนก รังนกเป็นอาหารที่หายาก ไม่ได้ทำจากกิ่งไม้เหมือนรังนกทั่วไป แต่ทำจากน้ำลายของนกนางแอ่น ที่พ่อและแม่นกจะช่วยกันสร้างรังเพื่อจะวางไข่ โดยจะช่วยกันสำรอกน้ำลาย ออกมาจากต่อมน้ำลาย ๒ ข้างที่อยู่ใต้ลิ้นให้ได้ปริมาณที่มากพอ เป็นเมือกเหนียวๆ ใสๆ เมื่อแห้งจะสานติดกันเป็นแผ่น สำหรับให้นกวางไข่และสามารถฝักไข่ได้ ซึ่งชาวจีนเชื่อกันว่า รังนกเป็นอาหารบำรุงกำลัง ดังนั้นซุปรังนกจึงใช้เป็นอาหารที่เสิร์ฟในงานเลี้ยงที่สำคัญ เพราะฉะนั้นงานเลี้ยงจะมีความสำคัญหรือยิ่งใหญ่เพียงใด จึงตัดสินได้ที่รายการอาหารซึ่งบ่งบอกถึงการให้เกียรติแขกมากน้อยเพียงใด
อาหารจีนจะมีกฎแน่นอนในการใส่เครื่องปรุงที่เหมาะสมในอาหารแต่ละชนิด และนำอาหารนั้นไปเป็นอาหารที่เหมาะสมกับมื้ออาหาร เพราะเครื่องปรุงบางชนิดจะกลมกลืนเฉพาะอาหารบางอย่างและวิธีการประกอบอาหารบางชนิดเท่านั้น
อาหารจีน มีรสชาติเป็นกลางไม่โดดเด่นไปทางใดทางหนึ่ง ยกเว้นอาหารจากเสฉวนจะมีรสเผ็ด ลักษณะของอาหารจีนจะแตกต่างกันไปตามการปรุงในแต่ละภูมิภาค เป็ดปักกิ่งเป็นอาหารที่ถือกำเนิดจากเมืองปักกิ่ง เป็นหนึ่งในอาหารจีนที่มีชื่อเสียงมากที่สุด หนังเป็ดถูกย่างจนกรอบ จากนั้นจะถูกเฉือนให้เป็นชิ้นบางๆ กินกับแผ่นแป้ง ต้นหอมแตงกวาหั่นชิ้นยาวและน้ำจิ้ม ข้นเหนียว ส่วนดิมซำ เป็นอาหารว่างของชาวจีนกวางตุ้ง นิยมกินกับน้ำชา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)